ผลกระทบหลังจากสิ้นพระชนม์ ของ อาร์ชดยุกรูดอล์ฟ มกุฎราชกุมารแห่งออสเตรีย-ฮังการี

หลังจากการสิ้นพระชนม์ของพระองค์ ทำให้ชีวิตครอบครัวของสมเด็จพระจักรพรรดิ และสมเด็จพระจักรพรรดินี ผู้ทรงเป็นพระราชบิดา และพระราชมารดาได้พังทลายลง โดยสมเด็จพระจักรพรรดินีได้ทรงประพาสต่างประเทศทุกเวลา โดยแทบจะไม่เสด็จกลับกรุงเวียนนาเลย ส่วนสมเด็จพระจักรพรรดิก็ยังทรงปฏิบัติพระราชกรณียกิจอย่างเดิม โดยไม่ทรงสนพระทัยพระบรมวงศานุวงศ์ใดเลย แม้กระทั่งพระราชธิดาของพระองค์เอง แต่ถึงอย่างไรก็ตาม พระองค์ก็ยังทรงรักพระมเหสีของพระองค์เสมอ

ส่วนลำดับการสืบสันตติวงศ์แห่งราชบัลลังก์อิมพีเรียลออสเตรีย-ฮังการีนั้น ได้เลื่อนจากรัชทายาทลำดับที่ 2 ขึ้นมาเป็นองค์รัชทายาทแทน ซึ่งก็คือ อาร์ชดยุกคาร์ล ลุดวิก พระราชอนุชาของพระองค์ แต่อาร์ชดยุกคาร์ล ลุดวิกทรงปฏิเสธที่จะรับตำแหน่งองค์รัชทายาท โดยทรงมอบตำแหน่งให้กับพระโอรสองค์โตของพระองค์ อาร์ชดยุกฟรานซ์ เฟอร์ดินานด์ ดังนั้น อาร์ชดยุกฟรานซ์ เฟอร์ดินานด์จึงทรงได้รับการสถาปนาเป็นองค์รัชทายาทองค์ใหม่ โดยทรงเป็นองค์รัชทายาททางพฤตินัย (Heir Presumptive) ทรงดำรงตำแหน่งจนถึงการลอบปลงพระชนม์ที่เมืองซาราเยโว บอสเนียและเฮอร์เซโกวีนา อันเป็นสาเหตุนำไปสู่สงครามโลกครั้งที่ 1

หลังจากที่อาร์ชดยุกฟรานซ์ เฟอร์ดินานด์ทรงสิ้นพระชนม์แล้ว ตำแหน่งรัชทายาททางพฤตินัยจึงตกเป็นของพระราชปนัดดาในสมเด็จพระจักรพรรดิ อาร์ชดยุกคาร์ล ซึ่งยังได้รับการสถาปนาเป็นอาร์ชดยุกแห่งออสเตรีย-เอสต์ และดยุกแห่งโมเดน่า ต่อจากอาร์ชดยุกฟรานซ์ เฟอร์ดินานด์อีกด้วย เมื่อพระองค์ทรงขึ้นครองราชย์เป็นสมเด็จพระจักรพรรดิแห่งออสเตรีย พระองค์ทรงได้รับพระสมญานามว่า จักรพรรดิผู้รักสันติ (The Peace Kaiser) แต่พระองค์ก็ไม่สามารถปกครองจักรวรรดิได้ดี เพราะเนื่องจากแพ้สงครามโลกครั้งที่ 1 จึงถูกยุบจักรวรรดิ และถูกล้มล้างพระราชอำนาจของพระราชวงศ์ไปในที่สุด